วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ประเภทของรอยสัก

มาทำความรู้จักศิลปะบนเรือนร่างหรือ TATTOO กันก่อนครับ
คลิกเลย <<<

ประเภทของรอยสัก

หลายๆคนอาจจะแบ่งแยกประเภทของรอยสักกันไม่อยถูก อาจจะเห็นงานสวยๆแบบที่ชอบ อยากจะได้บ้างแต่ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรมาค้นหาต่อหรือบอกใครๆว่าฉันต้องการแนวนี้ ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีการแบ่งรอยสักออกเป็นประเภทต่างๆ แบบชัดเจนหรอก แต่จะแบ่งคร่าวๆตามความเข้าใจ

1. Tribal tattoo หรือ ลายชนเผ่า


เอกลักษณ์ของงาน tribal คือ การถมดำ จะไม่มีการใช้สีสันอื่นเลยในลายสัก ใช้แต่สีดำล้วนๆและแทบไม่มีการลงเงาด้วยเช่นกัน จัดว่าเป็นรอยสักประเภทที่เก่าแก่ที่สุดเลยก็ว่าได้ เรียกแบบไทยๆก็คือรอยสักแบบชนเผ่านั่นเอง เริ่มแรกเดิมทีมีถิ่นกำเนิดมาจากเกาะแถบโพนีนิเซีย บางทีก็ดูออกยากเหมือนกันว่างานแบบไหนมาจากชนเผ่าอะไร แต่จากการศึกษาและดูไปนานๆจะเริ่มแยกออกได้แน่นอน ชนเผ่าหลักๆ ที่นิยมสักกันได้แก่

- ชนเผ่า Polynesian






จะมีเส้นโค้งที่ล้อไปกับ curve ของร่างกาย การลงสีแบบถมดำก็ค่อนข้างเยอะ นิยมสักไว้เพื่อความแข็งแกร่งและเป็นสิ่งสำคัญมากในวัฒนธรรม เพราะถือว่าเป็ฯเครื่องทดสอบความอดทน










http://f.ptcdn.info/908/040/000/o403odl0xNeEyys5eI7-o.jpg



- ชนเผ่า Maori


เผ่าที่จะลืมไม่ได้เมื่อพูดถึงรอยสัก คือ เผ่า Maori ภาษาของเราเรียกว่า Moko สำหรับพวกเขาแล้ว รอยสักมีความหมายด้านจิตวิญญาณและการประดับตกแต่งไปพร้อมๆกัน ผู้ชายที่มีรอยสักถือว่ามีเสน่ห์มาก ลายสักของพวกเขามีความโดดเด่นมากเช่นกันเพราะสักบนใบหน้าเลย





http://f.ptcdn.info/908/040/000/o403sbbznw9kvhRubFO-o.jpg


- ชนเผ่า Papua New Guinea

http://f.ptcdn.info/909/040/000/o403ugkndT4CGoJ6mqD-o.jpg

 ชนเผ่าปาปัวนิวกินีกลับนิยมรอยสักแบบผู้หญิงมากกว่าสักกันตั้งแต่ 5-6 ขวบด้วยซ้ำส่วนมากเป็นการสักเพื่อความสวยงามและบ่งบอก Marital Status สาวโสดจะค่อนข้างโล่งที่หน้าอก แต่งงานปุ๊บจะสักจากหัวไหล่สองข้างยาวมาประจบกันเป็นตัว V ตรงระหว่างอก

- ชนเผ่า Filipino

ชาวฟิลิปปินส์พื้นเมืองเชื่อว่ารอบสักมีความศักสิทธิ์มาก พวกเขาจะค่อนข้างรักษาพิธีกรรมนี้เป็นความลับ ไม่ค่อยอยากให้มีคนรู้มาก เขากลัวว่ามันจะ Popular ขึ้นมาในคนนอก แบบ ชนเผ่า Polynesian เขาไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น และด้วยความที่มีหลากหลายเกาะในประเทศ ชนเผ่าเลยแตกย่อยออกเป็นหลายกลุ่ม รูปแบบรอยสักก็ต่างกันตามไปด้วย

2. New wave tribal








พูดให้ง่ายๆก็คือ ลาย Tribal แบบสมัยใหม่นั่นเอง ลายดูซับซ้อนน้อยลง บางทีก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ลักษณะเหมือนลวดหนามมากกว่าที่จะเป็นคล้ายอักขระบางอย่างแบบชนเผ่า สาวๆหลายคนอาจจะไม่ชอบ มองว่าเถื่อนไปหน่อย











http://f.ptcdn.info/909/040/000/o403yozcaEvjJAsFI2E-o.jpg


2. Old school tattoo

หรือที่เรียกกันว่า American traditional tattoo และผู้ที่เริ่มต้นนำรอยสักนี้เข้ามาเผยแพร่ให้กับชาวอเมริกันได้แก่ชาวกะลาสีเรือที่มีโอกาสเดินทางไปยังเกาะแก่งต่างๆ ในแถบโพลีนีเซียนั่นเอง จุดเด่นของลายสักนี้คือจะมีเส้นที่หนา คมชัด มักจะบรรยายถึงการเดินเรือ ทหารเรือ ท้องทะเล สมอเรือ หญิงสาวหุ่นอวบอั๋นสไตล์ pin up girl หัวใจมีมีดปัก กระโหลก หัวเสือ นกนางแอ่น และอย่างอื่นอีกมากมาย


4. Neo-traditional tattoo 

งานสักประแภทนี้ เป็นงานที่พัฒนาต่อยอดมาจาก American traditional tattoo ลายเส้นไม่หนาเท่างานยุคแรกของกะลาสีเรือ แต่จะยังคงความคมชัดอยู่มีการไล่เฉดสีที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น หลายๆงานเริ่มไม่เน้นความจัดจ้าน กลับจะดูหวานพิ้งมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เรื่องราวที่หยิบมาก็หลากหลายขึ้นด้วย รวมทั้งมีความเป็นแฟนตาซีมากขึ้น


5. New school tattoo

เป็นลายสักโลกใหม่ที่เน้นสีสันสดใสและจินตนาการที่เหนือจริง ลายเส้นหนาชัดแต่ไม่หนาเท่างาน old school ใช้สีสันฉูดฉาดตามยุคสมัยใหม่ มีการไล่เฉดสีงานซับซ้อนกว่างานรุ่นเก่ามาก รวมแล้วมีความเป็นสามมิติมากกว่างานรุ่นก่อนที่จะแบนๆ เป็นรอยสักอีกประเภอที่ได้รับความนิยมทั่วโลก


6. Realiistic tattoo






แค่เห็นคำว่า real ก็พอจะเดาได้ว่า รอยสักแบบนี้ต้องเป็นอะไรที่มันจริง มีความสมจริง เหมือนภาพวาด ทั้งแบบสีและแบบขาวดำ ทั้งคน (นิยมเรียกว่างาน portrait) สัตว์ สิ่งของ เทพเจ้า หรือสถานที่ก็ยังมี จัดว่าเป็นงานสักที่มีความละเอียดสูงมากจริงๆ












http://f.ptcdn.info/909/040/000/o4057ubzw0V407vVG9a-o.jpg



7. Japanese tattoo

งานสักของญี่ปุ่นในยุคแรกจะเป็นเรื่องของจิตวิญญาณซะมากกว่า เรียกกันว่า irezumi หลังจากเข้ายุคเอโดะมาถึง จะปรับเปลี่ยนเป็นการสักเพื่อความสวยงาม โดนอ้างอิงจากตำนานเทพเจ้าและนิยาย จุดเด่นของงานญี่ปุ่นคือมีความน่าเกรงขามและอ่อนช้อยผสมผสานกัน มีเทพเจ้าหรืออสูรที่มีใบหน้าดุดัน บางทีเป็นมังกรตัวใหญ่หรือ ปลาคาร์ป แต่ก็จะมีดอกไม้และสายน้ำมาเพิ่มความอ่อนช้อย


8. Thai neo - thai tattoo 

มาถึงงานที่สร้างชื่อเสียงคนไทยให้ไประดับโลกกันบ้าง เป็นงานสักสไตล์ไทยที่เน้นลวดลายอันอ่อยช้อย ผสมผสานไปกับงานลงเงาและไล่เฉดสีตามแนวทางการสักแบบสากล ส่วนมากนิยมสักเป็นสัตว์ในเทพนิยาย ลายไทย ลายกนกต่างๆ หรือพระพุทธรูปก็มี


9. Bio - Mechineical tattoo

เป็นอีกรูปแบบในการสักที่ได้รับความนิยมมากหลังยากยุค 2000 เป็นต้นมา ความหมายของชื่อ bio-mechineical tattoo ก็คือการผสมผสานระหว่างการมีชีวิตและเครื่องจักรกล ลวกลายที่พบได้บ่อยคือเนื้อคนที่ฉีกขาดเผยให้เห็นด้านในเป็นเครื่องจักรในรูปลักษณะต่างๆ



10. Giger tattoo

จุดเด่นของงานก็คือความเป็นสัตว์ประหลาดนี่แหละ จะเป็นงานขาวดำที่เล่นเงาได้เสมือนจริง ทั้งๆที่เราก็รู้ว่าเอเลี่ยนไม่มีจริง แต่งานสักประเภทนี้ก็ทำให้ดเหมือนของจริงอย่างไม่น่าเชื่อเลย


11. Qoute tattoo

เป็นอีกรูปแบบการสักลายที่บูมมากในยุคนี้ คำพูดคำคมต่างๆ จากทั้งคนดัง จากหนัง ข้อความในไบเบิล ชื่อตัวเอง หรือเนื้อเพลงที่ชอบ ต่างก็ถุูกเลือกมาสักแบบบ่อยๆ แม้จะเป็นคำสั้นๆไม่กี่ตัวอีกษร แต่ก็ทำให้งานออกมาน่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ


12. Minimalist tattoo 

เป็นสไตล์ Less is more โดยแท้ กินเนื้อที่ไม่มากแต่กินความมาก เหมาะกับคนที่ไม่อยากสักเยอะ ไม่ต้องเจ็บตัวนาน กำลังเป็นที่นิยมหมู่วัยรุ่นทั่วโลก นิยมสักเป็นสิ่งของรอบตัวหรือธรรมชาติ


13. Dotwork 

รูปแบบการสัก Dotwork คือการใช้ปลายเข็มจุดลงไปเล็กๆต่อเนื่องกันไปจนเกิดภาพ ต้องใช้ความอุตสาหมาก



14. Mandala tattoo

Mandala เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งของชาวอินเดีย ลักษณะเป็นวงกลมหรือบางทีก็ครึ่งวงกลม มีส่วนประกอบของการเดินเส้นและ dotwork อยู่ในงานด้วย นิยมทำกันเป็นขาวดำและการจัดวางตำแหน่งให้อย่างมีชั้นเชิง ทำให้งานออกมาน่าสนใจมากขึ้น


15. Watercolor tattoo

มาถึงรูปแบบงานสุดท้ายกันแล้ว เป็นงานแบบสีน้ำ ลักษณะก็เหมือนคุณสมบัติการใช้สีน้ำแบบที่เราเคยเรียนมานั่นแหละ โปร่งแสง เข้มหรืออ่อนได้ตามต้องการโดยเพิ่มหรือลดสัดส่วนของน้ำ มักจะเจอคู่กันงาน Minimalist อยู่บ่อยๆ ใช้สีสันที่สดใส เหมือนการระบายสีน้ำจริงๆ การไหลของสีก็ดูธรรมชาติเหมือนงานวาดสีน้ำด้วยพู่กัน ไม่เมหือนมาจากเข็มสักเลย



(ทั้งหมด อ้างอิงมาจาก http://pantip.com/topic/34908018 )


นาย ดรัณภพ มหาวุฒิ
รหัสนักศึกษา 581744088
รหัสวิชา GEN1102
Section AE

มารู้จักกับศิลปะบนเรือนร่าง หรือ TATOO กันครับ


คนส่วนมากคิดว่า รอยสักเป็นสัญลักษณ์แห่งความสกปรก ป่าเถื่อน การลงโทษ และการตีตรา

แต่อีกด้านหนึ่ง รอยสักเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ เป็นสัญลักษณ์ของการเติบโต

เป็นที่พึ่งของจิตใจ เป็นศิลปะบ่งบอกตัวตน 

รอยสักผ่ากาลเวลามาเนิ่นนาน เป็นความงดงามท่ามกลางความชื่นชอบและชิงชัง


เหนือสิ่งอื่นได้ ศิลปะการสักยังไม่หายไปจากโลกนี้เช่นอื่นๆ มันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ตามยุคสมัย แต่มันเป็นรอยจารึกจากอดีตเช่นกัน 

ในยุคที่โลกเปิดกว้างมากขึ้น คนเราก็มีความคิดอิสระมากขึ้น อาจจะเห็นได้ว่าหลายๆคนให้ความสนใจในเรื่องของ TATTOO หรือากรสักอยู่ไม่น้อย ซึ่งยุคก่อนๆ อาจจะมองรอยสักว่าสกปรก เลอะเทอะ หรือน่ากลัว แต่นั่นเป็นเพียงความคิดที่เราห้ามกันไม่ได้ แต่ในมุมมองคนที่สักกันนั้น มันอาจจะมีเรื่อง ราวดีดีแฝงอยู่ก็เป็นได้ ก็ล้วนแต่ความคิดของคนที่มองมา

(อ้างอิงจาก http://pantip.com/topic/32281723)


http://f.ptcdn.info/908/040/000/o403bcg8x4U5ku1l5v4-o.jpg




มีหลายคำถามชอบถามเวลาคิดอยากจะสักรูปดีๆไว้กับตัว.... .

1. สักเจ็บไหม
= เจ็บพอทนได้แต่ส่วนใหญ่ตื่นตกใจเพราะเสียงของเครื่องสักมากกว่า เมื่อสักไปสักพักจะเริ่มชินและคงที่

2. สักแต่ละครั้งราคาเท่าไหร่ คิดยังไง
= ตอบแบบคร่าวๆเอาที่รู้จักมา ราคาแต่ละร้านไม่เหมือนกัน ความยากง่ายของงาน ความละเอียด (หรือมากที่อาจขึ้นอยู่กับช่างที่ฝีมือมีรางวัลการันตีด้วย) สมมุติว่า งานสี 1 ฝ่ามือ 3,000 บาท

อย่าเห็นแก่ของถูกหรือของฟรี ที่สักให้กันเองหรือยังไม่ได้เรียนรู้งาน ขอเตือนไว้มันจะเป็ฯตราบาปมากกว่าศิลปะที่สวยงาม การทำเลเซอร์ลบรอยสักมันเจ็บกว่าการสักเข้าไปอีก

3. ผมเป็นเด็กอยู่ แต่อยากมีรอยสักเท่ๆห์ บ้าง เพิ่งเรียนมัธยม ผมอยากสัก
= ร้านสักส่วนใหญ่มีกฏไม่สักให้เด็กต่ำกว่า 18 ปี เนื่องจากเหตุผลว่า ยังมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจน้อยอยู่ อาจเป็นอารมณ์ชั่วครู่ เมื่อทำไปแล้วอาจเสียใจภายหลัง และมีเรื่องผู้ปกครองมาโทษทางร้านได้ ขอให้คิดดีๆ เพราะมันจะอยู่กับคุณไปชั่วชีวิต ลบแล้วก็ยังไม่เหมือนเดิม

4. ช่างสักที่ดี มีจรรยาบรรณ เขาจะไม่ทำพฤติกรรมหื่น พูดจาแย่ๆกับลูกค้า ซึ่งเขาถือว่านั่นคืออาชีพของเขาและให้เกรียรติลูกค้าเสมอ

5. การมีรอยสักที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มันมักจะมีค่ากับคนคนนั้นเสมอ การลอกรอยสักหรือสักตามคนอื่น ดารา นักร้อง มันอาจจะไม่โอเค เพราะเจ้าของผลงานคงไม่ชอบที่จะมีเหมือนคนอื่นๆเช่นกัน

*การสัก คือความชอบส่วนบุคคล เมื่อคิดจะสักควรถามตัวเองว่าชอบแค่ไหน อยากได้มันมาอยู่บนตัวเรามั้ย ถ้าสักไปแล้วมีผลกระทบต่อชีวิตที่เป็นอยู่หรือเปล่า ถ้าคำตอบคือไม่ ชอบและรักในสิ่งนั้น ก็ทำเถอะ ในเมื่อมันไม่ได้เดือดร้อนใคร "และคุณยินดีที่จะยอมเจ็บเพื่อมัน"
(อ้างอิงจาก http://pantip.com/topic/32044247)





http://f.ptcdn.info/908/040/000/o403c4ggcxPPBskjl7m-o.jpg


วิดีโอตัวอย่างการสัก หรือ TATOO



https://www.youtube.com/watch?v=GZ3z81WF1Po




ตามไปดูประเภทของรอยสักกันเลยคร้าบบบบ  > คลิกเลย <